We use cookies, including cookies from third parties, to enhance your user experience and the effectiveness of our marketing activities. These cookies are performance, analytics and advertising cookies, please see our Privacy and Cookie policy for further information. If you agree to all of our cookies select “Accept all” or select “Cookie Settings” to see which cookies we use and choose which ones you would like to accept.
รวมเคล็ดลับป้องกัน กำจัดเชื้อรา ให้หายเกลี้ยง ไม่กลับมาขึ้นซ้ำ
เชื้อรา เป็นปัญหาที่เมื่อพบภายในบ้านแล้วควรรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะเชื้อราเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถ้าปล่อยไว้ก็จะมีโอกาสทำให้เครื่องใช้ภายในบ้านเสียหายจนต้องเสียเวลาซ่อมแซม ดังนั้นถ้าเห็นคราบเชื้อราบนผนัง ฝ้า กำแพงในพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน ควรรีบกำจัดเชื้อราให้เร็วที่สุด
แต่ถ้าไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นกำจัดเชื้อราอย่างไรดี ในบทความนี้มีวิธีกำจัดเชื้อราบนกำแพงปูนและบริเวณต่าง ๆ ภายในบ้านให้หายไป พร้อมกับวิธีป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาทำอันตรายบ้านหรือห้องที่คุณรักอีกต่อไป
สาเหตุที่ทำให้ในบ้านมีเชื้อราเกิดขึ้น
เชื้อราที่ปรากฏตามผนัง กำแพง เพดาน หรือเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านมักเกิดจากความชื้นสะสม โดยทั่วไปแล้วความชื้นเป็นสิ่งที่มักจะสังเกตด้วยตายาก กว่าจะรู้ก็เห็นคราบเชื้อราขึ้นรอให้กำจัดแล้ว ถ้าไม่อยากใช้เวลากับการกำจัดเชื้อรา มาดูกันว่ามีสิ่งใดบ้างที่เป็นตัวการทำให้ภายในบ้านเกิดความชื้น ดังนี้
- จุดรั่วซึม : มักพบจุดรั่วซึมจะมีฝ้า เพดาน รอยต่อท่อน้ำ ร่องรอยแตกตามผนังและกำแพง
น้ำฝน : บริเวณที่สัมผัสกับน้ำฝน เช่น ขอบหน้าต่าง ประตู หรือหลังคามักเกิดความชื้นสะสมสูง
การใช้ชีวิต : การทำอาหาร ล้างจาน ถูบ้าน อาบน้ำ ตากผ้า แบบไม่มีช่องระบายอากาศ ไม่มีแสงเข้าถึง ทำให้เกิดความชื้นสูง
10 วิธี กำจัดเชื้อรา บอกลาสิ่งที่ทำลายสุขภาพของสมาชิกในบ้าน
เชื้อราเป็นสิ่งที่ไม่ควรติดอยู่บนผนัง กำแพง หรือสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน เพราะเชื้อราจะทำให้บ้านดูสกปรก ไม่น่าอยู่ และถ้าเผลอสูดรับเชื้อราเข้าสู่ร่างกายบ่อย ๆ ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว ในที่นี้จะมาแนะนำวิธีแก้เชื้อราในห้องนอน และห้องอื่น ๆ ในบ้านที่สามารถทำได้ง่าย ๆ แต่เห็นผลจริง ดังนี้
1. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูเป็นสิ่งของสารพัดประโยชน์ที่สามารถนำมากำจัดเชื้อราได้อย่างปลอดภัย และช่วยลดโอกาสเกิดเชื้อราในอนาคตได้ โดยนำน้ำส้มสายชูมาเทใส่ในขวดเพื่อฉีดกำจัดเชื้อราตามพื้นผิว แล้วปล่อยทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงเพื่อให้กรดทำปฏิกิริยากับเชื้อรา แล้วค่อยใช้แปรงขัดและนำผ้าเช็ดคราบออกไป
สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องกลิ่นฉุน สามารถเปิดประตู หน้าต่าง เพื่อช่วยระบายกลิ่นน้ำส้มสายชูให้จางลงไวขึ้นได้อ
2. แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ที่มีระดับความเข้มข้น 70-90% จะช่วยกำจัดเชื้อราที่ฝังตัวตามสิ่งของต่าง ๆ ได้ เช่น โต๊ะ พรม หน้าต่าง พื้นผิวแอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ โดยใช้แปรงขัดคราบดำก่อน แล้วนำผ้าชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดถูคราบเชื้อราออก แต่แอลกอฮอล์สามารถกำจัดได้แค่เชื้อราที่ฝังตัวบนพื้นผิวตื้น ๆ เท่านั้น ไม่สามารถกำจัดคราบเชื้อราที่ฝังตัวลึกได้
3. ผงซักฟอก
วิธีกำจัดราดำบนผนังที่สามารถทำได้ทันที คือ การนำหัวแปรงหรือผ้ามาชุบน้ำที่ผสมด้วยผงซักฟอก มาขัดถูบริเวณที่มีเชื้อราติดอยู่ ก่อนใช้น้ำสะอาดล้างคราบออกอีกครั้งเพื่อกำจัดเชื้อราออกไป ทำให้กำแพงหรือผนังดูสะอาดตามากขึ้นได้ แต่ต้องมั่นใจว่าล้างผงซักฟอกออกจนหมด ไม่มีคราบผงซักฟอกหลงเหลือ และไม่ปล่อยให้เกิดความชื้นสะสม เพื่อไม่ให้ผงซักฟอกเป็นตัวกระตุ้นทำให้เชื้อราเติบโตได้ดีกว่าเดิม
4. เบกกิ้งโซดา
การใช้เบกกิ้งโซดาเป็นวิธีกำจัดเชื้อราในห้องน้ำระดับเบื้องต้นได้โดยที่ไม่ทำลายพื้นผิว ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือนำเบกกิ้งโซดาแบบผสมน้ำมาขัดทำความสะอาดกระเบื้อง และพื้นผนังให้คราบราหลุดออกก่อนล้างน้ำออก แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้งสนิท หรือใช้ผงเบกกิ้งโซดาโรยบนบริเวณที่ต้องการกำจัดเชื้อรา แล้วค่อย ๆ ขัดเบา ๆ ให้ราหลุดออกก่อน จากนั้นจึงนำผ้าชุบน้ำหมาดมาเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง
5. น้ำมันทีทรี
น้ำมันทีทรีเป็นสารที่ขึ้นชื่อเรื่องการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และยังสามารถนำมาใช้กำจัดเชื้อราที่เพิ่งเกิดได้ดีมาก โดยในการใช้งานจะต้องนำน้ำมันทีทรี 1 ช้อนชา มาผสมกับน้ำ 1 ถ้วย ก่อนนำไปฉีดตามบริเวณที่มีราอยู่ ทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนเช็ดคราบออก นอกจากนี้แล้วน้ำมันทีทรีสามารถทำความสะอาดวอลเปเปอร์ขึ้นรา ได้ด้วย แต่ตอนทำความสะอาดให้ใช้ผ้าซับ ไม่ขัดถู เพราะอาจทำให้วอลเปเปอร์ถลอกได้
6. น้ำมันยูคาลิปตัส
น้ำมันยูคาลิปตัสเป็นสิ่งที่ช่วยกำจัดเชื้อราได้ดี และยังช่วยแก้ปัญหาห้องเหม็นอับ ได้อีกด้วย โดยการนำน้ำมันยูคาลิปตัส 1 ผสมน้ำสะอาด 1 ถ้วย จากนั้นให้ใช้ผ้าชุบก่อนนำมาเช็ดทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวกระเบื้อง ผนังที่เป็นเชื้อรา หรือจะใช้ทำความสะอาดวอลเปเปอร์ก็ได้เหมือนกัน
7. น้ำยาฟอกผ้าขาว
น้ำยาฟอกผ้าขาวอีกหนึ่งวิธีกำจัดเชื้อราบนกำแพงปูนแข็งได้อย่างอยู่หมัด มีคุณสมบัติกำจัดเชื้อราได้อย่างล้ำลึก โดยวิธีนี้จะต้องนำน้ำยาฟอกผ้าขาวมาผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่ต้องการ แล้วขัดเชื้อราให้สะอาดก่อนใช้น้ำสะอาดล้างออกอีกครั้ง แต่เนื่องจากน้ำยาฟอกผ้าขาวมีกลิ่นแรง และอาจทำให้ระคายเคืองผิวได้ จึงควรใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัยก่อนทำ
อัตราส่วนแนะนำ (น้ำยาฟอกผ้าขาว:น้ำสะอาด) : 1:1 สำหรับทำความสะอาดกระเบื้องและผนังห้องน้ำ, 1:3 สำหรับทำความสะอาดยาแนว ซิลิโคน, 1:10 สำหรับกำจัดราบนเฟอร์นิเจอร์
8. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็นสารชนิดหนึ่งที่มักถูกนำไปใช้ทางการแพทย์ เพราะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และกำจัดเชื้อราได้ โดยนำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้น 3% มาใส่ขวดสเปรย์แล้วนำมาฉีดตามแนวกระเบื้อง ผนัง อ่างล้างจาน กระจก และอื่น ๆ ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบออกให้หมด และรอให้บริเวณที่ทำความสะอาดแห้งสนิท
กำจัดเชื้อราตัวร้ายแล้ว อย่าลืมหาตัวช่วยเปลี่ยนอากาศภายในบ้านให้บริสุทธิ์ด้วยเครื่องฟอกอากาศ พร้อมสูดรับลมสะอาด ลดโอกาสเกิดภูมิแพ้
9. แอมโมเนีย
วิธีกำจัดเชื้อราภายในบ้านอีกวิธีหนึ่งที่แนะนำ คือ การใช้แอมโมเนียทำความสะอาดเชื้อราและคราบต่าง ๆ ในบ้าน โดยจะต้องผสมแอมโมเนียกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 จากนั้นให้ฉีดลงบนบริเวณที่มีเชื้อราอยู่ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนเช็ดเอาคราบสกปรกออกด้วยน้ำสะอาด
ทั้งนี้ห้ามนำแอมโมเนียมาใช้ร่วมกับน้ำยาฟอกผ้าขาวเด็ดขาด เพราะจะก่อให้เกิดก๊าซที่เป็นอันตรายต่อระบบหายใจ
10. น้ำยาฆ่าเชื้อรา
ถ้าต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเชื้อราที่เห็นผลแน่นอน สามารถใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อราที่แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แม้เป็นคราบเชื้อราที่ฝังตัวลึก ก็สามารถกำจัดให้หายไปโดยที่ไม่ทำลายพื้นผิว แม้เป็นเชื้อราผนังปูนที่กำจัดยาก และยังมีวิธีใช้งานง่ายเพียงฉีดน้ำยาบริเวณที่มีคราบเชื้อรา แล้วรอให้น้ำยาเริ่มแห้ง ก่อนนำผ้ามาเช็ดบริเวณที่มีเชื้อราออกไป และทาสีทับเพื่อปรับพื้นผิวให้เรียบเนียน สวยงาม
ป้องกันเชื้อราไม่ให้ขึ้นซ้ำได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าจะกำจัดเชื้อราตามพื้นผิวผนัง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าออกหมดแล้ว แต่ถ้ายังคงมีพฤติกรรมเสี่ยงอยู่ก็มีโอกาสที่เชื้อราจะกลับมาขึ้นซ้ำได้ ในที่นี้ก็จะมาแนะนำวิธีป้องกันเชื้อราเพื่อลดโอกาสเกิดคราบเชื้อราติดตามสิ่งของต่าง ๆ ซ้ำ ดังนี้
เปิดประตูหรือหน้าต่างระบายอากาศในห้องเพื่อลดความชื้นสะสม แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่อากาศไม่ถ่ายเท สามารถซื้อเครื่องลดความชื้นช่วยลดความชื้นในห้องได้
ตรวจสอบภายในบ้านว่ามีจุดรั่วซึมไหม เพราะจุดรั่วซึมทำให้ภายในบ้านมีความชื้นสูงขึ้น ทำให้เชื้อราขึ้นง่าย และยังทำให้เฟอร์นิเจอร์ กำแพง ผนัง เพดาน ในห้องเสียหายด้วย
กรณีที่กำแพง ผนัง เพดานเคยมีเชื้อราฝังลึกอยู่ ให้ทาสีกันเชื้อราทับ เพราะสีกันเชื้อรามีสารยับยั้งการก่อเชื้อราที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อราขึ้นซ้ำได้
หมั่นทำความสะอาดห้องอยู่เสมอ ไม่ให้มีเศษอาหาร เศษขนม น้ำหวาน ตกหล่นตามพื้น หรือมีฝุ่นเกาะติดพื้นผิว จนกลายเป็นต้นกำเนิดของเชื้อราในบ้าน
กำจัดเชื้อราในบ้านแล้ว อย่าลืมป้องกันบ้านจากเชื้อรา ไม่ให้เชื้อราขึ้นซ้ำอีก
การกำจัดเชื้อราภายในบ้านไม่ใช่เรื่องยาก แต่การป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาเกิดอีกครั้งนั้นยากกว่า เพราะจำเป็นต้องดูแลความสะอาดภายในบ้านอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรเช็กสภาพอากาศภายในห้องเป็นประจำ และไม่ทำให้ห้องมีความชื้นสะสม โดยสามารถเลือกป้องกันด้วยเครื่องลดความชื้นจาก LG PuriCare Dehumidifier ที่ช่วยตรวจจับค่าความชื้นสัมพัทธ์ภายในห้อง และสามารถปรับระดับความชื้นในอากาศให้เหมาะสมได้อัตโนมัติ หรือสามารถเลือกระดับความชื้นที่ต้องการได้เอง พร้อมทั้งช่วยกำจัดแบคทีเรียในอากาศซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา เสียงเครื่องไม่ดังรบกวนช่วงเวลาพักผ่อน และยังช่วยประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องลดความชื้นดีไซน์สวย คุณภาพดี เป็นมิตรต่อบ้านและสภาพแวดล้อมจาก LG สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lg.com และพิเศษสุด ๆ เมื่อสมัคร LG Member รับส่วนลดและบริการพิเศษสุดคุ้มอีกหลายต่อ
- รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)
- Special Offer ผ่อน 0% สูงสุดถึง 18 เดือน *เฉพาะบัตรที่ร่วมรายการ
- แอลจีบริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ พร้อม Exclusive Care+ สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ
สมัคร LG Member เพื่อรับสิทธิพิเศษ
ติดต่อ LG
โทรศัพท์: 02 057 5757
ทุกวัน 8:00 - 18:00 น.
Line: @lgthailand
อีเมล: supportlgeth@lge.com