แนะนำวิธีเลือกแอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน ต้องดูอะไรบ้าง?

วิธีเลือกแอร์

แนะนำวิธีเลือกแอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน ต้องดูอะไรบ้าง?

2025-04-28

เครื่องปรับอากาศเรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานที่ควรมีทุกบ้าน เนื่องจากสภาพอากาศประเทศไทยที่มีอากาศร้อนตลอดทั้งปี การเลือกซื้อแอร์จึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งวิธีเลือกแอร์จะมีปัจจัยต่าง ๆ ให้พิจารณาแตกต่างตามความต้องการและลักษณะการใช้งาน ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะกับการใช้งานว่าจะต้องดูอะไรบ้าง เพื่อให้ได้แอร์ที่เหมาะสมกับงบประมาณและเข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมากที่สุด

 

 

8 วิธีเลือกแอร์ควรดูอะไรบ้าง?

 

 

การเลือกแอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานควรพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย เพื่อให้ได้แอร์ที่มีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการมากที่สุด ซึ่งวิธีเลือกแอร์จะมีปัจจัยหลัก ๆ ที่ควรให้สำคัญดังนี้

 

 

1.ประสิทธิภาพการประหยัดไฟฟ้า

 

การเลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว ที่ยิ่งมีดาวเยอะก็จะยิ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมาก แม้ว่าราคาเริ่มต้นจะสูงกว่า แต่จะคืนทุนได้ในระยะยาวจากค่าไฟที่ประหยัดลง โดยควรเลือกรุ่นที่มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงานอย่าง ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ซึ่งจะช่วยปรับกำลังการทำงานของคอมเพสเซอร์ได้อย่างต่อเนื่อง

 

 

2.ระบบฟอกอากาศ

 

ระบบฟอกอากาศก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่นหรือมีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ ควรเลือกแอร์ที่มีระบบกรองอากาศขั้นสูง เช่น ระบบกรองฝุ่น PM 2.5 หรือระบบฟอกอากาศด้วยเทคโนโลยี Plasma Ion ที่สามารถกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และกลิ่นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

3.การติดตั้งและการดูแลรักษา

 

วิธีเลือกแอร์นอกจากสเปคเครื่องแล้ว ความง่ายในการติดตั้งและการดูแลรักษาแอร์ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ควรเลือกแอร์ที่มีระบบติดตั้งไม่ยุ่งยาก และมีค่าบริการซ่อมบำรุงที่เหมาะสม นอกจากนี้ควรตรวจสอบการรับประกันและบริการหลังการขาย รวมถึงความพร้อมของศูนย์บริการในพื้นที่ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนเมื่อเกิดปัญหา

 

 

4.แบรนด์และราคา

 

ควรเลือกแอร์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถืออย่าง LG และเปรียบเทียบราคารวมถึงฟังก์ชันการใช้งานในแต่ละรุ่น ไม่ควรตัดสินใจเลือกเพียงเพราะราคาถูกที่สุด แต่ควรพิจารณาถึงคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าในระยะยาว โดยอาจดูจากรีวิวและคำแนะนำจากผู้ใช้งานจริงเพิ่มเติม

 

 

5.เทคโนโลยีการทำความเย็น

 

การเลือกเทคโนโลยีการทำความเย็นที่เหมาะสมคือส่วนสำคัญในการเลือกแอร์ให้เหมาะกับลักษรณะการใช้งาน โดยแอร์ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์จะช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟได้ดีกว่าแอร์ทั่วไป ซึ่งจะเหมาะกับลักษณะการใช้งานที่ต้องมีการเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน ถึงแม้ว่าราคาของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์จะสูงกว่าแอร์ทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับส่วนต่างแล้วมีความคุ้มค่ากว่าแน่นอน

 

 

6.การออกแบบและดีไซน์

 

นอกจากเทคโนโลยีทำความเย็นและสเปคของแอร์แล้ว การออกแบบและดีไซต์ของตัวเครื่องปรับอากาศก็มีผลต่อการเลือกแอร์ให้เหมาะกับห้องเช่นกัน โดยจะต้องคำนึงถึงการออกแบบและดีไซน์ที่กลมกลืนกับตกแต่งภายในห้อง ควรเลือกสีและรูปทรงที่เข้ากับพื้นที่ใช้งาน ในบางรุ่นจะมีการออกแบบที่บางเบาและดูทันสมัย ซึ่งเหมาะสำหรับห้องนอน ห้องรับแขก หรือพื้นที่สำนักงาน ที่จะติดตั้งได้โดยไม่ทำลายความสวยงามของการตกแต่งภายใน

 

 

7.เสียงรบกวน

 

สำหรับวิธีเลือกแอร์ในห้องนอนหรือห้องทำงานอาจจะต้องคำนึงถึงเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานของคอมเพสเซอร์แอร์ ดังนั้นจึงควรเลือกแอร์ที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 40 เดซิเบล เพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนขณะพักผ่อนหรือทำงาน ซึ่งในรายละเอียดสินค้าของแอร์แต่ละแบรนด์จะระบุระดับเสียงการทำงานของแอร์ทั้งในส่วนคอลย์ร้อนและคอลย์เย็นให้ได้พิจารณาก่อนเลือกซื้อ

 

 

8.ระบบ IoT และการควบคุมอัจฉริยะ

 

แอร์รุ่นใหม่ ๆ มักมาพร้อมกับระบบ IoT ที่สามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นวิธีเลือกแอร์ที่เหมาะกับยุค AI ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะระบบ IoT จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับอุณหภูมิ ตั้งเวลา และตรวจสอบการทำงานจากระยะไกลได้อย่างแอร์ WiFi ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) และทำงานร่วมกับ Smart Device ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

วิธีเลือก BTU แอร์ให้เหมาะกับขนาดห้อง

 

หลังจากที่ได้ทราบวิธีเลือกแอร์กันไปแล้วว่าควรพิจารณาจากปัจจัยไหนบ้าง จะมีคำถามที่มักพบบ่อยอยู่ ๆ คือ “ควรเลือกซื้อแอร์กี่ BTU ดี?” ซึ่งการเลือก BTU แอร์ให้เหมาะกับห้องนั้น โดยทั่วไปจะใช้วิธีคำนวณที่ขนาดห้อง 1 ตารางเมตรจะเทียบกับ 400-500 BTU ถ้าหากว่าห้องมีขนาด 16 ตารางเมตรก็ควรใช้แอร์ประมาณ 7,000-9,000 BTU ห้องขนาด 32 ตารางเมตรควรใช้ 12,000-15,000 BTU

 

นอกจากการคำนวณขนาดห้องแล้วก็ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ทิศทางการรับแสง จำนวนคน และการใช้งานภายในห้อง เพื่อให้การเลือก BTU แอร์มีประสิทธิภาพและเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานมากที่สุด

 

 

วิธีใช้งานแอร์ให้ประหยัดไฟ

 

 

นอกจากวิธีเลือกแอร์ที่ประหยัดไฟแล้ว การใช้งานแอร์อย่างถูกวิธีก็ช่วยประหยัดไฟและช่วยยืดอายุการใช้งานได้เช่นกัน โดยเฉพาะแอร์ WiFi ที่สามารถควบคุมและตรวจสอบการใช้งานได้อย่างแม่นยำ ซึ่งแนวทางการใช้งานแอร์ให้ประหยัดไฟจะมีดังนี้

 

  • ตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ 25-26 องศา ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสมที่ให้ทั้งความเย็นสบายและช่วยประหยัดพลังงาน

  • ปิดม่านหรือกันสาดเพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดดและลดภาระการทำงานของคอมเพสเซอร์แอร์

  • ถอดทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์ (filter) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็น

  • ใช้พัดลมร่วมกับแอร์เพื่อกระจายความเย็นและช่วยลดการทำงานของเครื่อง

  • หลีกเลี่ยงการเปิด-ปิดแอร์บ่อย ๆ โดยควรใช้โหมดประหยัดพลังงานแทน

  • ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง 10-15 นาที เพื่อเป็นการประหยัดไฟ

 

 

วิธีเลือกแอร์ที่มีคุณภาพเหมาะกับการใช้งาน

 

วิธีเลือกแอร์ที่ดีและมีประสิทธิภาพควรดูปัจจัยหลาย ๆ ด้านให้ครอบคลุมตั้งแต่ งบประมาณ ขนาดพื้นที่ที่ติดตั้ง ฟังก์ชันการทำงาน รวมไปถึงเทคโนโลยีการทำงานในด้านต่าง ๆ เพื่อจะได้สามารถเลือกแอร์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานและขนาดห้องมากที่สุด

 

นอกจากนี้แล้วการเลือกแอร์ยังต้องคำนึงถึงการออกแบบที่กลมกลืนกับการตกแต่งภายใน และระบบควบคุม IoT ที่จะช่วยให้การใช้งานเครื่องปรับอากาศเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและช่วยประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น การเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพและมีบริการหลังการขายที่ดี รวมถึงการคำนวณ BTU ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง จะช่วยให้ได้แอร์ที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว

 

สำหรับใครที่สนใจหรือกำลังมองหาแอร์คุณภาพดี มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างระบบกรองฝุ่น PM 2.5 หรือจะเป็นการใช้งานระบบ IoT สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.LG.com และพิเศษสุด ๆ คุ้มยิ่งขึ้นกับสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก LG Member ที่ยกขบวนทั้งส่วนลดและบริการสุดพิเศษมาให้คุณ เพียงแค่สมัครสมาชิก LG Member

 

  • รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)

  • Special Offer ผ่อน 0% สูงสุดถึง 18 เดือน *เฉพาะบัตรที่ร่วมรายการ

  • แอลจีบริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ พร้อม Exclusive Care+ สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ

 

 

สมัคร LG Member เพื่อรับสิทธิพิเศษ

 

 

ติดต่อ LG
โทรศัพท์ 02 057 5757

ทุกวัน 8:00-18:00 น.

อีเมล: supportlgeth@lge.com

 

* ตรวจสอบเงื่อนไขส่วนลดและสิทธิพิเศษ LG Member ได้ที่ https://www.lg.com/th/membership/