แนะนำ 12 วิธีแก้ปัญหาตากผ้าไม่แห้งในช่วงหน้าฝน หมดปัญหากลิ่นอับกวนใจ

ตากผ้าไม่แห้ง

แนะนำ 12 วิธีแก้ปัญหาตากผ้าไม่แห้งในช่วงหน้าฝน หมดปัญหากลิ่นอับกวนใจ

2025-07-21

แบ่งปันเนื้อหานี้ คุณสามารถแบ่งปันรายการที่คุณชอบกับเพื่อนของคุณ

หนึ่งในปัญหาที่คุณพ่อบ้านคุณแม่บ้านต้องเผชิญเมื่อเข้าสู่หน้าฝนนั่นคือการตากผ้าไม่แห้งเนื่องจากไม่ค่อยมีแสงแดด ซ้ำยังเจอฝนตกติดต่อกันบ่อย ๆ ทำให้เวลาที่ตากผ้าทีไรนอกจากผ้าจะแห้งช้าแล้วก็ยังส่งกลิ่นเหม็นอับจนหลายคนโยนเสื้อผ้าเข้าเครื่องซักผ้าอีกครั้งเพื่อซักใหม่เรื่อย ๆ จนกว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์จะหายไป 

 

แน่นอนว่าปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับหน้าฝนไม่ได้เกิดกับเฉพาะชาวคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดเท่านั้น ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีพื้นที่กว้างขวางอย่างบ้านทาวน์เฮ้าส์ หรือทาวน์โฮมก็เผชิญปัญหาไม่ต่างกัน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะ LG จะมาแบ่งปันวิธีการซักผ้าและแก้ปัญหาผ้าเหม็นอับช่วงหน้าฝนที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่าย ๆ

 

 

12 เคล็ด (ไม่) ลับ แก้ปัญหาปัญหาตากผ้าไม่แห้งในช่วงหน้าฝน สวมใส่อย่างมั่นใจ ไม่เหม็นอับ

 

 

เมื่อเข้าสู่หน้าฝน การตากผ้าไม่แห้งทำให้เสื้อผ้าเหม็นอับได้ง่าย มาดูเคล็ด (ไม่) ลับช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้กันว่าทำได้อย่างไรบ้าง

 

1. ไม่นำเสื้อผ้าเปียกชื้นไว้ในตะกร้า

 

ไม่ควรนำเสื้อผ้าที่เปียกชื้นหรือเปื้อนเหงื่อใส่รวมไว้ในตะกร้าเดียวกับเสื้อผ้าแห้งตัวอื่น ๆ เพราะความชื้นจะกระจายและเร่งการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้ผ้าเหม็นอับ และยังเพิ่มโอกาสที่กลิ่นอับจะยังคงฝังแน่นอยู่หากตากผ้าไม่แห้งสนิท วิธีที่ถูกต้องคือรีบนำผ้าไปซักทันที หรืออย่างน้อยควรกางออกผึ่งลมก่อนเก็บไว้ในตะกร้า เพื่อลดการหมักหมมของกลิ่น

 

2. เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเฉพาะ

 

การเลือกใช้ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เป็นสูตรสำหรับตากผ้าในที่ร่ม ถือเป็นวิธีแก้ผ้าเหม็นอับที่มีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันปัญหากลิ่นอับในกรณีตากผ้าไม่แห้งช่วงหน้าฝนได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเฉพาะเหล่านี้มักมาพร้อมเทคโนโลยียับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับชื้นแม้ต้องตากในที่ร่ม แถมบางสูตรยังมีคุณสมบัติเฉพาะ ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้กลับมาติดเสื้อผ้าอีกครั้งด้วย

 

3. หลีกเลี่ยงการซักผ้าในปริมาณมาก

 

การซักเสื้อผ้าในปริมาณมากเกินไป นอกจากจะทำให้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าจะเข้าไปทำความสะอาดเนื้อผ้าได้ไม่ทั่วถึงแล้ว ถ้าหากตากผ้าไม่แห้งสนิทก็มีโอกาสที่จะเกิดกลิ่นเหม็นอับบนผ้าได้ง่าย เพราะแบคทีเรีย เชื้อรา หรือสิ่งสกปรกยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไปจากเนื้อผ้ามากพอ ดังนั้นการลดปริมาณเสื้อผ้าให้น้อยลง จะช่วยให้ผงซักฟอกและน้ำยาซักผ้าขจัดคราบสกปรกได้อย่างทั่วถึงและเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

4. เช็กสภาพอากาศก่อนซักผ้า

 

 

การตรวจสอบสภาพอากาศผ่านเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา สมาร์ททีวี หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ ช่วยให้คุณประเมินได้ว่าวันนี้เหมาะแก่การซักผ้าหรือไม่ โดยเฉพาะผู้ที่ซักผ้าตอนเช้าแล้วออกไปทำธุระช่วงบ่าย หากไม่ดูพยากรณ์ล่วงหน้าให้ดี เสื้อผ้าที่ตากไว้อาจโดนฝนตกซ้ำจนต้องซักใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ตากผ้าไม่แห้งและเกิดกลิ่นอับตามมาจนต้องซักผ้าใหม่อีกรอบ

 

 

5. ตากผ้าทันทีหลังจากซักเสร็จ

 

ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องซักผ้าฝาบนหรือฝาหน้า หลังจากปั่นผ้าเสร็จควรรีบนำไปตากทันที อย่าปล่อยเสื้อผ้าแช่ค้างในถังนาน เพราะความชื้นที่สะสมจะทำให้ผ้าเริ่มมีกลิ่นอับได้ อีกทั้งสภาพอากาศชื้นในช่วงหน้าฝนยังทำให้เสี่ยงต่อการตากผ้าไม่แห้งหรือแห้งช้า ทำให้กลิ่นอับนี้ไม่หายไปง่าย ๆ

 

6. ใช้เครื่องลดความชื้นเข้าช่วย

 

เมื่อฝนตกหนักจนต้องย้ายผ้ามาตากในบ้าน การตากผ้าในห้องพร้อมกับเปิดเครื่องลดความชื้นเข้าช่วยเป็นวิธีที่ได้ผลดี โดยเฉพาะเครื่องลดความชื้นที่มีโหมด Laundry ซึ่งจะช่วยไล่ความชื้นในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นพร้อมช่วยลดกลิ่นอับที่เกิดจากการตากผ้าไม่แห้งได้ แนะนำให้เว้นระยะห่างบนราวตากผ้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยให้อากาศถ่ายเทและหมุนเวียนได้ดี วิธีนี้จะช่วยเร่งการระเหยของความชื้นให้ไวขึ้น

 

7. ใช้เครื่องอบผ้าแทนการตาก

 

แม้เครื่องซักผ้าหลายรุ่นในปัจจุบันจะมีระบบปั่นหมาดเพื่อขจัดน้ำส่วนเกิน แต่ในช่วงหน้าฝนที่อากาศแปรปรวน ฝนตกบ่อย มีความชื้นในอากาศสูง การใช้เครื่องอบผ้าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถลดปัญหาตากผ้าไม่แห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เพราะการใช้เครื่องอบผ้าเป็นวิธีทําให้ผ้าแห้งเร็ว โดยไม่ต้องพึ่งพาแสงแดด ทั้งยังลดโอกาสเกิดกลิ่นอับและเชื้อราที่สะสมอยู่ในเนื้อผ้าอีกด้วย

 

 

8. ซักผ้าด้วยน้ำอุ่น

 

 

การใช้น้ำอุ่นซักผ้าจะช่วยเปิดเส้นใยผ้า ทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกง่ายขึ้นโดยเฉพาะผ้าฝ้ายหรือผ้าที่มีความหนา และยังช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นด้วย เมื่อซักด้วยน้ำอุ่นแล้วตากในที่อากาศถ่ายเท จะลดโอกาสที่ผ้าจะชื้นและตากผ้าไม่แห้งได้อย่างดี ทั้งยังลดกลิ่นอับที่สะสมในเนื้อผ้าอีกด้วย ข้อควรระวังคือควรใช้น้ำอุ่นซักผ้าที่รองรับการซักด้วยน้ำอุ่นเท่านั้นเพื่อป้องกันเนื้อผ้าเสียหาย หด หรือเสียรูปทรง

 

 

9. ตากผ้าในพื้นที่อากาศถ่ายเท

 

แม้ไม่มีแดด การเลือกจุดที่อากาศถ่ายเทดี เช่น ระเบียงที่มีลมพัดผ่าน หรือบริเวณใกล้หน้าต่าง จะช่วยให้ความชื้นระเหยได้รวดเร็วขึ้น ลดปัญหาตากผ้าไม่แห้ง และยังช่วยยับยั้งการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของกลิ่นอับได้ด้วย

 

นอกจากนี้ การกลับด้านผ้าก่อนตากก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยลดปัญหาตากผ้าแล้วไม่แห้งได้ เพราะด้านในมักอุ้มน้ำและอับชื้นมากกว่าด้านนอก โดยเฉพาะบริเวณตะเข็บใต้วงแขนหรือช่วงหลัง

 

 

10. เว้นระยะห่างของการตากผ้าให้มากขึ้น

 

หลายคนมักแขวนผ้าชิดติดกันเพื่อประหยัดพื้นที่บนราวตากผ้า แต่การเว้นระยะห่างของการตากผ้าให้มากขึ้นจะช่วยให้ลมไหลผ่านได้ดีขึ้น ลดจุดอับชื้นที่มักทำให้ตากผ้าไม่แห้งสนิท และยังป้องกันกลิ่นอับที่อาจลุกลามจากผ้าชิ้นหนึ่งไปสู่อีกชิ้นด้วย เทคนิคนี้ใช้ได้ผลทั้งการซักผ้ากลางคืน และซักผ้าในวันที่ไม่มีแสงแดด

 

 

11. ปั่นหมาดให้นานขึ้นก่อนตาก

 

หากเครื่องซักผ้าของคุณสามารถตั้งค่าการปั่นหมาดได้หลายระดับ ควรเลือกใช้รอบปั่นที่แรงขึ้นหรือเพิ่มระยะเวลาการปั่นหมาดเพื่อช่วยรีดน้ำออกจากผ้าให้มากที่สุด ทำให้ลดเวลาในการตาก เหมาะสำหรับผ้าหนา ๆ อย่างเช่น ผ้าขนหนู หรือผ้ายีนที่มักอุ้มน้ำไว้มากกว่าผ้าทั่วไป วิธีนี้ช่วยลดปัญหาตากผ้าไม่แห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

12. อย่าลืมทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

 

 

หลายคนอาจมองข้ามเรื่องความสะอาดของเครื่องซักผ้า แต่ความจริงแล้วการไม่ดูแลเครื่องให้สะอาด อาจเป็นต้นตอของกลิ่นอับและเชื้อราที่สะสมอยู่ภายใน เมื่อซักผ้าแล้วสิ่งสกปรกจากถังซักก็จะปนเปื้อนมากับเสื้อผ้า ทำให้แม้จะตากผ้าไม่แห้งเพียงเล็กน้อยก็เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ทันที

 

ดังนั้นการดูแลเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีล้างเครื่องซักผ้า ที่ถูกต้อง เช่น การใช้น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา หรือผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ จะช่วยให้ถังซักสะอาด ลดการสะสมของเชื้อโรค และยืดอายุการใช้งานของเครื่องอีกด้วย

 

 

ตากผ้าไม่แห้ง ปัญหากวนใจช่วงหน้าฝนที่แก้ไขได้ไม่ยาก

 

ปัญหาตากผ้าไม่แห้งจนเกิดกลิ่นอับกลายเป็นเรื่องที่หลายบ้านต้องเจอเป็นประจำในช่วงหน้าฝน เคล็ด (ไม่) ลับในบทความนี้สามารถช่วยลดปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรตากในที่ร่มโดยเฉพาะ หรือการใช้เครื่องลดความชื้นเข้าช่วยในกรณีตากผ้าในห้อง นอกจาก 12 เคล็ดลับในบทความนี้แล้วยังมีอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถป้องกันปัญหาตากผ้าไม่แห้งและผ้าเหม็นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นคือการใช้เครื่องอบผ้าคุณภาพสูงจาก LG ที่มาพร้อมเทคโนโลยี DUAL Inverter Heat Pump ช่วยอบผ้าให้แห้งสนิทโดยใช้พลังงานน้อยลง ทำงานเงียบ กำจัดเชื้อแบคทีเรียได้หมดจด ช่วยถนอมเนื้อผ้าอย่างเหมาะสม ถือเป็นวิธีแก้เสื้อเหม็นอับโดยไม่ต้องชักใหม่ หมดปัญหาตากผ้าไม่แห้งในหน้าฝน ให้คุณสวมใส่เสื้อผ้าทุกชิ้นอย่างสบายใจ

 

สนใจเครื่องอบผ้า LG สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lg.com และพิเศษสุด ๆ เมื่อสมัคร LG Member รับส่วนลดเเละบริการพิเศษสุดคุ้มอีกหลายต่อ

 

  • รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)

  • ผ่อน 0% นานสูงสุด 18 เดือน

  • บริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ

  • Exclusive Care Plus + ให้คำปรึกษา 24 ชั่วโมง พร้อมการันตีซ่อมเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง (*กรุงเทพ และปริมณฑล)

 

 

ติดต่อ LG
โทรศัพท์: 02 057 5757

ทุกวัน 8:00 - 18:00 น.

Line: @lgthailand

อีเมล: supportlgeth@lge.com