รวมวิธีแก้ห้องเหม็นอับ ให้ห้องสะอาดสดชื่น น่าอยู่

ห้องเหม็นอับ

รวมวิธีแก้ห้องเหม็นอับ ให้ห้องสะอาดสดชื่น น่าอยู่

2025-06-25

ความสุขของการพักผ่อนในบ้านควรเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมที่สะอาด สดชื่น และปลอดโปร่ง แต่หลายครั้งที่เราอาจต้องเผชิญกับปัญหา “ห้องเหม็นอับ” ที่หลายคนมักละเลย ซึ่งกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการสะสมของเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือสารพิษที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือมีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ

 

ในบทความนี้จะพาคุณไปสำรวจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาห้องมีกลิ่นอับ และวิธีแก้ห้องเหม็นอับอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บ้านของคุณกลับมาสดชื่น น่าอยู่ และปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัวอีกครั้ง

 

 

ห้องเหม็นอับมีสาเหตุเกิดจากอะไร?

 

 

 

ปัญหาห้องเหม็นอับภายในบ้านเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศไม่ดี ซึ่งนอกจากจะกระทบการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยะยาวได้อีกด้วย โดยกลิ่นอับในห้องอาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้

 

 

  • ห้องเหม็นอับเพราะไม่มีหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
  • มีความชื้นสะสมจนทำให้เกิดเชื้อรา
  • มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะ
  • เฟอร์นิเจอร์หรือพรมที่มีความชื้นสะสม
  • มีอาหารตกค้างหรือขยะที่ไม่ได้ทิ้ง
  • สัตว์เลี้ยงและกลิ่นของเสียที่ขับถ่าย

 

 

12 วิธีแก้ห้องเหม็นอับที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ

 

เมื่อปัญหาห้องเหม็นอับเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เราอาจต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ลองมาดูวิธีแก้ห้องเหม็นอับที่มีประสิทธิภาพและทำได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

 

 

1. ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

 

การทำความสะอาดคือหัวใจสำคัญในการขจัดต้นตอของกลิ่นอับ โดยวิธีแก้กลิ่นอับในห้องนอนควรเริ่มจากการซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าม่านทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อกำจัดเหงื่อ น้ำมันจากผิวหนัง และสิ่งสกปรกที่สะสม อย่าลืมเช็ดถูตามจุดต่าง ๆ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ เพื่อลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์

 

2. เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ

 

เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาห้องเหม็นอับ โดยควรเปิดหน้าต่างอย่างน้อยวันละ 15-30 นาที โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือเย็นที่อากาศบริสุทธิ์ หรือใช้พัดลมช่วยดึงอากาศเก่าออกและให้อากาศใหม่เข้ามาแทนที่

 

3. ดูดฝุ่นตามเฟอร์นิเจอร์อย่างสม่ำเสมอ

 

ฝุ่นละอองที่สะสมตามเฟอร์นิเจอร์เป็นแหล่งรวมของกลิ่นอับที่มักถูกมองข้าม ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตามเฟอร์นิเจอร์ ดูดฝุ่นตามซอกมุม ขอบหน้าต่าง และพื้นที่ที่ใช้มือเช็ดถูไปไม่ถึง อย่าลืมทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมที่อาจเป็นตัวกระจายฝุ่นและกลิ่นไปทั่วห้องโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

 

4. หมั่นทำความสะอาดเสื้อผ้าเป็นประจำ

 

เสื้อผ้าที่ใส่แล้วมักเป็นแหล่งสะสมเหงื่อและกลิ่นตัว หากทิ้งไว้ในห้องจะกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ห้องเหม็นอับ ควรซักเสื้อผ้าที่ใช้แล้วเป็นประจำ ไม่ควรกองทิ้งไว้ในห้อง ใส่ผ้าในตะกร้าที่มีฝาปิดมิดชิด และซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะชุดออกกำลังกายที่ชุ่มเหงื่อควรซักทันทีหลังใช้งาน

 

5. ใช้เครื่องลดความชื้น

 

ห้องที่มีความชื้นสูงก็เป็นสาเหตุหลักของห้องเหม็นอับและเชื้อราได้ ซึ่งเครื่องลดความชื้นจะช่วยดึงความชื้นออกจากอากาศ ทำให้สภาพแวดล้อมในห้องแห้งและไม่เหมาะต่อการเจริญของเชื้อรา โดยควรตั้งค่าความชื้นที่เหมาะสมประมาณ 40-50% และวางในจุดที่อากาศไหลเวียนได้ดี เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการลดกลิ่นอับ

 

6. ใช้วัสดุดูดซับกลิ่น

 

การใช้ตัวดูดซับกลิ่นจากธรรมชาติเป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับคนที่กังวลเรื่องสารเคมี เช่น ถ่านกัมมันต์ช่วยดูดซับกลิ่นและความชื้น ผงเบกกิ้งโซดาช่วยลดกลิ่นอับ หรือวางถุงลดกลิ่นอับไว้ตามมุมห้อง ใต้เฟอร์นิเจอร์ หรือในตู้เสื้อผ้า และเปลี่ยนทุก 1-2 เดือนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

 

7. ใช้เครื่องฟอกอากาศ

 

เครื่องฟอกอากาศที่มีฟิลเตอร์ HEPA และถ่านกัมมันต์สามารถช่วยกรองฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ที่อาจมาจากสัตว์เลี้ยงได้ (เฉพาะเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องที่มีสัตว์เลี้ยง[1] ) รวมถึงดักจับกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยควรเลือกขนาดเครื่องให้เหมาะกับพื้นที่ห้อง วางในจุดที่อากาศไหลเวียนได้ดี หมั่นทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองตามกำหนดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

 

8. ล้างแอร์เป็นประจำ

 

เครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อโรค ส่งผลให้ห้องเหม็นอับเมื่อเปิดใช้งาน ควรล้างฟิลเตอร์ทุก 2 สัปดาห์ และล้างเครื่องปรับอากาศทั้งระบบทุก 3-6 เดือน เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ช่วยให้อากาศในห้องสะอาด ปราศจากกลิ่นอับและเชื้อโรค

 

 

 

9. ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ 

 

พัดลมดูดอากาศเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาห้องเหม็นอับ ด้วยการดูดอากาศเสียออกไปภายนอก พร้อมดึงอากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่ สามารถติดตั้งได้ที่หน้าต่างหรือผนังห้องโดยเฉพาะในห้องน้ำหรือห้องครัว และเปิดใช้งานวันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง จะช่วยลดความชื้นและกลิ่นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

10. ใช้น้ำหอมหรือสเปรย์ปรับอากาศ 

 

สเปรย์ปรับอากาศช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยควรเลือกใช้สเปรย์ปรับอากาศที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาว ลาเวนเดอร์ หรือยูคาลิปตัส ซึ่งนอกจากให้กลิ่นหอมสดชื่นแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ และช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

 

11. เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง

 

อาหารที่มีกลิ่นฉุน เช่น อาหารทะเล กระเทียม หัวหอม หรืออาหารผัดที่มีควัน มักทิ้งกลิ่นตกค้างในห้องเป็นเวลานาน ซึ่งสร้างปัญหาห้องเหม็นอับโดยที่เราไม่รู้ตัว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเหล่านี้ในห้องที่ระบบระบายอากาศไม่ดี และจัดการเศษอาหารหรือภาชนะทันทีหลังรับประทานเสร็จ

 

12. ไม่เปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้

 

ห้องน้ำเป็นแหล่งความชื้นและกลิ่นหลักที่แพร่กระจายไปยังห้องอื่น ๆ  ควรปิดประตูห้องน้ำทุกครั้งหลังใช้งานโดยเฉพาะหลังอาบน้ำ นอกจากนี้ควรเปิดพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำระหว่างและหลังใช้งานอย่างน้อย 15-20 นาที เพื่อระบายความชื้นและกลิ่นออกไปด้านนอกไม่ให้เล็ดลอดมาสู่ห้องอื่น ๆ ภายในบ้าน

 

จบปัญหาห้องเหม็นอับด้วยเครื่องลดความชื้น LG

 

การแก้ปัญหาห้องเหม็นอับไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการเช็กแก้ไขอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ ตั้งแต่การทำความสะอาดเป็นประจำ เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ดูดฝุ่นตามซอกมุม ไปจนถึงการใช้เครื่องลดความชื้นและการดูแลเครื่องปรับอากาศ เพื่อขจัดต้นตอของปัญหากลิ่นอับอย่างแท้จริง

 

อย่างไรก็ตาม หากต้องการแก้ปัญหาห้องเหม็นอับอย่างครบวงจร เครื่องลดความชื้นจาก LG ที่ทำงานด้วยคอมเพรสเซอร์ระบบ Dual Inverter และเทคโนโลยี Plasmaster Ionizer ที่ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในอากาศ และขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lg.com และสิทธิพิเศษสุดคุ้มสำหรับสมาชิก LG Member ที่มีทั้งส่วนลดและโปรโมชั่นสุดคุ้ม เพียงแค่สมัครสมาชิก LG Member

 

  • รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)

  • Special Offer ผ่อน 0% สูงสุดถึง 18 เดือน *เฉพาะบัตรที่ร่วมรายการ

  • แอลจีบริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ พร้อม Exclusive Care+ สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ

 

 

สมัคร LG Member เพื่อรับสิทธิพิเศษ

 

 

 

หากสนใจติดต่อ LG เพิ่มเติมได้ที่
โทรศัพท์: 02 057 5757

ทุกวัน 8:00 - 18:00 น.

Line: @lgthailand

อีเมล: supportlgeth@lge.com

 

** ตรวจสอบเงื่อนไขส่วนลดและสิทธิพิเศษ LG Member ได้ที่ https://www.lg.com/th/membership/