เสื้อผ้าขึ้นราแก้ยังไง 10 วิธีกำจัดเชื้อราให้เกลี้ยงแบบเห็นผลจริง

เสื้อผ้าขึ้นราแก้ยังไง

เสื้อผ้าขึ้นราแก้ยังไง 10 วิธีกำจัดเชื้อราให้เกลี้ยงแบบเห็นผลจริง

2025-07-21

ปัญหาเสื้อผ้าขึ้นราเป็นปัญหากวนใจยอดฮิตที่หลายคนมักเจอเมื่อต้องตากผ้าช่วงหน้าฝน หรือวันที่แดดไม่เพียงพอ บอกเลยว่าเชื้อราบนผ้านอกจากทำให้ผ้าดูเก่าแล้วยังส่งผลต่อสุขอนามัย ร้ายแรงกว่านั้นอาจทำให้เกิดอาการระคายผิวตามมาได้อีกด้วย! แล้วแบบนี้หากเสื้อผ้าขึ้นราแก้ยังไงดี? บทความนี้มีคำตอบกับ 10 วิธีแก้เสื้อขึ้นรา ทำยังไงถึงจะบอกลาปัญหานี้ได้ ตอบคำถามคนที่สงสัยว่าเสื้อขึ้นราจะซักออกไหม พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้เชื้อราขึ้นซ้ำแบบทำตามได้ง่าย ๆ ได้ผลจริง จะมีวิธีไหนบ้างตามมาดูกัน!

 

 

เสื้อผ้าขึ้นราเกิดจากอะไร?

 

เสื้อผ้าขึ้นรา อาจดูเหมือนปัญหาเล็ก ๆ แต่ความจริงแล้วนี่คือสัญญาณเตือนถึงการดูแลเสื้อผ้าที่ไม่ถูกวิธี และอาจส่งผลต่อสุขภาพได้มากกว่าที่คิด ปัญหานี้มักพบในช่วงฤดูฝน หรือในบ้านที่มีความชื้นสูง
โดยเฉพาะเมื่อเก็บเสื้อผ้าที่ยังไม่แห้งสนิทไว้ในตู้ที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือซักผ้ากลางคืน แล้วตากไม่แห้งจนทำให้เชื้อราเจริญเติบโตบนเส้นใยผ้า

 

หลายคนสงสัยว่าเสื้อผ้าขึ้นรามีอันตรายไหม? คำตอบคือใช่ โดยเฉพาะผู้ป่วยภูมิแพ้ ผิวแพ้ง่าย หอบหืด
เพราะสปอร์เชื้อราที่สะสมอยู่สามารถฟุ้งกระจายไปในอากาศและเข้าสู่ร่างกายได้ทางการหายใจ หรือสัมผัสโดยตรงกับผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นแพ้ คัน ระคายเคือง หรือแม้กระทั่งอาการทางระบบทางเดินหายใจได้ในบางราย ดังนั้นการทำความสะอาดและป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าขึ้นราจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

 

10 วิธีกำจัดราบนเสื้อผ้า เคลียร์คราบสกปรกแบบเห็นผลทันใจ

 

เสื้อผ้าขึ้นราแก้ยังไงดี? นี่คือวิธีกำจัดเชื้อราบนเสื้อผ้าสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ก็สามารถขจัดคราบและกลิ่นอับได้อย่างหมดจด

 

 

1. ซักผ้าด้วยน้ำร้อน

 

 

การซักเสื้อขึ้นราด้วยน้ำร้อนเป็นวิธีพื้นฐานที่ได้ผลดีมาก เพราะความร้อนสามารถทำลายสปอร์ของเชื้อราได้โดยตรง โดยเฉพาะเมื่อใช้น้ำร้อนในอุณหภูมิประมาณ 60°C ขึ้นไป อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบสัญลักษณ์ซักผ้าก่อนว่าเนื้อผ้าทนความร้อนได้หรือไม่ หากซักได้ ให้นำเสื้อผ้าไปแช่น้ำร้อนประมาณ 15–30 นาที แล้วจึงซักตามปกติ

 

2. แช่ผ้าในน้ำส้มสายชู

 

 

เมื่อผ้าขึ้นรา วิธีแก้ง่าย ๆ คือใช้น้ำส้มสายชู 1 ส่วน ผสมกับน้ำเปล่า 2 ส่วน แล้วนำเสื้อผ้าที่ขึ้นราไปแช่ไว้ประมาณ 30 นาที กลิ่นอับและคราบราจะจางลง จากนั้นซักตามปกติและตากแดดให้แห้งสนิท

 

3. ผสมน้ำมะนาวกับเบกกิ้งโซดา

 

 

วิธีซักผ้าขึ้นราดําสูตรธรรมชาติที่ทั้งขจัดคราบและฆ่าเชื้อราได้คือการผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ เข้ากับน้ำมะนาว 1–2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำไปทาบริเวณที่มีเชื้อรา ทิ้งไว้ 15–30 นาที แล้วขัดเบา ๆ ด้วยแปรงขนนุ่มก่อนซักก็จะช่วยให้คราบค่อย ๆ หลุดออกได้

 

4. ใช้น้ำยาฟอกขาว

 

 

น้ำยาฟอกขาวมีสารคลอรีนที่สามารถฆ่าเชื้อราและทำให้ผ้าขาวสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะคราบราดำที่ฝังลึก วิธีใช้คือนำผ้าขาวมาแช่ในน้ำที่ผสมน้ำยาฟอกขาวตามอัตราส่วนข้างขวด ทิ้งไว้ 15–20 นาที แล้วซักออกตามปกติ แต่แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการใช้กับผ้าสีหรือผ้าที่มีเนื้อบาง

 

5. ใช้ผงซักฟอกสูตรฆ่าเชื้อ

 

 

ในปัจจุบันมีผงซักฟอกหลายสูตรที่ช่วยฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียได้ เพียงเลือกใช้ผงซักฟอกที่ระบุว่า
“ฆ่าเชื้อ” หรือ “ต้านเชื้อรา” บนฉลาก แล้วซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าตามขั้นตอนปกติ หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ อาจแช่ผ้าในน้ำที่ผสมผงซักฟอกไว้ล่วงหน้าก่อนซัก

 

6. แช่น้ำเกลือเข้มข้น

 

 

เกลือมีคุณสมบัติช่วยดูดความชื้นและยับยั้งเชื้อราได้เป็นอย่างดี เพียงผสมเกลือ 3–4 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ลิตร แล้วแช่ผ้าไว้ประมาณ 30 นาที วิธีนี้เหมาะสำหรับผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ที่มักดูดซับความชื้นได้ง่าย

 

7. ซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

 

 

ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ออกแบบมาให้ใช้กับผ้าจะช่วยกำจัดทั้งเชื้อราและแบคทีเรียในคราวเดียว โดยสามารถเติมลงไปในขั้นตอนการซัก หรือแช่ผ้าไว้ก่อนซักก็ได้ แนะนำว่าควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว หากใช้กับเสื้อผ้าเด็กหรือชุดชั้นใน

 

แนะนำวิธีล้างเครื่องซักผ้า ให้ปลอดเชื้อโรค ลดโอกาสเติบโตของแบคทีเรียบนเส้นใยผ้า

 

8. ผงบอแรกซ์

 

 

บอแรกซ์เป็นสารธรรมชาติที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อรา ช่วยขจัดคราบฝังแน่นและทำให้ผ้าดูสะอาดขึ้น เพียงผสมผงบอแรกซ์ ½ ถ้วยตวงลงในน้ำซักผ้าพร้อมกับผงซักฟอกตามปกติ หรือจะใช้แช่ผ้าก่อนซักประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นในการซักผ้าขึ้นรา

 

9. ตากแดดจัด

 

 

หลังจากซักผ้าแล้ว ควรนำไปตากแดดจัดทันที เพราะรังสี UV จากแสงแดดสามารถฆ่าเชื้อราได้โดยตรง และยังช่วยลดกลิ่นอับให้หมดไป ควรตากให้โดนแดดทั่วถึงทั้งด้านนอกและด้านใน เพื่อให้ผ้าแห้งสนิทและไม่เกิดเชื้อราใหม่

 

รวมทริคไม่ลับบอกลาปัญหาตากผ้าไม่แห้งในหน้าฝนหรือช่วงวันที่แดดน้อย

 

10. ใช้เครื่องอบผ้า

 

 

หากไม่มีแดดหรืออยู่ในพื้นที่อากาศชื้น การใช้เครื่องอบผ้าก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก เพราะกลไกของเครื่องอบผ้าจะช่วยให้ผ้าแห้งสนิท ลดโอกาสการสะสมของความชื้นที่เป็นต้นเหตุของเชื้อรา สามารถใช้ผ้าได้ทันทีไม่ต้องรอนาน อีกทั้งยังไม่มีปัญหากลิ่นอับกวนใจเหมือนการตากในที่ร่มอีกด้วย

 

รวมเคล็ด (ไม่) ลับ แนะนำวิธีใช้เครื่องอบผ้า ให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าอย่างมีประสิทธิภาพ

 

เสื้อผ้าขึ้นราแก้ยังไง พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ

 

แม้วิธีแก้ปัญหาผ้าขึ้นราจะมีหลากหลาย แต่ “การป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก” ย่อมดีกว่าการแก้ไข เพราะเมื่อเสื้อผ้าขึ้นรา นอกจากจะเสียเวลาในการทำความสะอาดแล้ว ยังเสี่ยงต่อการทำลายเนื้อผ้าและส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว วิธีป้องกันไม่ให้ราขึ้นเสื้อผ้าซ้ำ มีดังนี้

 

 

ตากผ้าให้แห้งสนิทก่อนเก็บเข้าตู้

 

หลีกเลี่ยงการเก็บผ้าหมาดหรือแห้งไม่สนิทในตู้เสื้อผ้า เพราะความชื้นแม้เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอให้เชื้อราเติบโตได้

 

เว้นช่องว่างในตู้เสื้อผ้าให้อากาศถ่ายเท

 

อย่าอัดเสื้อผ้าแน่นจนเกินไป ควรเว้นระยะห่างพอสมควร และหมั่นเปิดตู้ให้อากาศถ่ายเทเป็นครั้งคราว

 

วางถุงกันชื้นหรือถ่านไม้ไผ่ในตู้เสื้อผ้า

 

ของใช้เล็ก ๆ เหล่านี้สามารถช่วยดูดความชื้นในอากาศได้ดี และลดโอกาสการเกิดราโดยไม่ต้องใช้สารเคมี

 

ทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าเป็นประจำ

 

แนะนำให้เช็ดฝุ่นและเชื้อราที่อาจสะสมในมุมต่าง ๆ ของตู้เดือนละครั้ง พร้อมเปลี่ยนถุงกันชื้นใหม่ตามกำหนด

 

ใช้เครื่องลดความชื้น

 

เครื่องลดความชื้นเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะเครื่องลดความชื้น LG ที่มาพร้อมหลายโหมดการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Laundry Mode ที่ช่วยให้ผ้าแห้งไวแม้ตากในร่ม ไร้กลิ่นอับ และไม่ทำลายเนื้อผ้า ไปจนถึงโหมด Spot Dry ที่สามารถไล่ความชื้นเฉพาะจุด ด้วยอุปกรณ์เสริมที่ให้มา ได้แก่ หัวต่อ T-Hose สำหรับใช้บริเวณตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชัก และหัวต่อแบบ Y-Hose ที่เหมาะสำหรับใช้กับรองเท้า ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถควบคุมผ่านแอปบนมือถือได้ 24 ชม. ใช้งานง่าย สะดวกสบายมากกว่าที่เคย

 

 

เสื้อผ้าขึ้นราแก้ยังไงให้ได้ผล ไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก

 

วิธีการซักผ้าที่ขึ้นราดำนั้นมีหลากหลายวิธีด้วยกัน รวมถึงการใช้เครื่องอบผ้าที่เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ผ้าแห้งสนิทอย่างมั่นใจ โดยเฉพาะเครื่องอบผ้า LG ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการถนอมผ้า ให้ผ้าของคุณไม่เหลือความอับชื้นจนเกิดเชื้อรา พร้อม Smart WI-FI control ที่สามารถควบคุมสั่งงานผ่านสมาร์ตโฟนได้ทันที ประหยัดทั้งเวลาและพลังงาน ทั้งยังสามารถลดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้อีกด้วย

 

สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องใช้ไฟฟ้าเกรดคุณภาพจาก LG สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lg.com พิเศษยิ่งกว่า เพียงสมัครเป็นสมาชิก LG Member รับส่วนลดและบริการพิเศษเพิ่มเติม

 

  • รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)
  • ผ่อน 0% นานสูงสุด 18 เดือน
  • บริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ
  • Exclusive Care Plus + ให้คำปรึกษา 24 ชั่วโมง พร้อมการันตีซ่อมเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง (*กรุงเทพ และปริมณฑล)

 

 

สมัคร LG Member เพื่อรับสิทธิพิเศษ

 

ติดต่อ LG

โทรศัพท์: 02 057 5757 

ทุกวัน 8:00 - 18:00 น. 

Line: @lgthailand

อีเมล: supportlgeth@lge.com

 

** ตรวจสอบเงื่อนไขส่วนลดและสิทธิพิเศษ LG Member ได้ที่ https://www.lg.com/th/membership/