12 วิธีล้างเครื่องซักผ้าด้วยตัวเองง่าย ๆ ลดปัญหาการซักไม่สะอาด

วิธีล้างเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม เพราะเครื่องซักผ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการทำความสะอาดเสื้อผ้า แต่เมื่อถูกใช้งานไปนาน ๆ สิ่งสกปรกจากเสื้อผ้า รวมถึงคราบผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม อาจสะสมอยู่ภายในเครื่อง ทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของเครื่องซักผ้าลดลง โดยเฉพาะการซักผ้าที่สามารถสังเกตเห็นได้ว่าผ้าที่ซักออกมาอาจไม่สะอาดเท่าที่ควร

ดังนั้น แม้ว่าการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้า อาจไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำบ่อย ๆ แต่ก็ควรให้ความสำคัญ เพราะช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกและป้องกันกลิ่นอับ ทั้งยังช่วยให้เครื่องทำงานได้ดีขึ้นและใช้งานได้นานขึ้น ทางเราจะมาแนะนำ 10 วิธีล้างเครื่องซักผ้าอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการล้างถังซักผ้าฝาบนและฝาหน้า รวมถึงการทำความสะอาดภายนอกของเครื่อง เพื่อให้เครื่องซักผ้ากลับมาใช้งานได้เต็มที่และช่วยให้การซักผ้าสะอาดยิ่งขึ้น

ทำไมถึงควรล้างเครื่องซักผ้า?

เครื่องซักผ้าถูกออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดเสื้อผ้าและขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคราบเหงื่อ คราบอาหาร ฝุ่น หรือเส้นผมที่ติดอยู่บนเนื้อผ้า อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้เครื่องซักผ้าไปนาน ๆ สิ่งสกปรกเหล่านี้มักจะสะสมอยู่ภายในถังซัก โดยเฉพาะบริเวณซอกหลืบที่ทำความสะอาดได้ยาก หากไม่มีการล้างถังเครื่องซักผ้าเป็นประจำ สิ่งสกปรกเหล่านี้อาจทำให้เสื้อผ้าที่ซักในครั้งต่อ ๆ ไปไม่สะอาดเท่าที่ควร และยังอาจเกิดกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ได้ 

วิธีล้างเครื่องซักผ้าสามารถทำได้ง่าย ๆ เพราะในคู่มือการใช้งานหรือโปรแกรมการซักของเครื่องซักผ้าหลายรุ่น มักจะมีฟังก์ชันสำหรับทำความสะอาดถังซักโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้การล้างเครื่องซักผ้าสะดวกขึ้น และยังช่วยให้เครื่องซักผ้าสะอาดขึ้นและทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย โดยประโยชน์ของการล้างเครื่องซักผ้ามีดังนี้

• ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดมากขึ้น เมื่อถังซักปราศจากสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าจะทำงานได้ดีขึ้น ทำให้เสื้อผ้าสะอาดหมดจดและมีกลิ่นหอมสดชื่น

• ลดการสะสมของเชื้อโรค คราบสกปรกที่ตกค้างอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ การล้างเครื่องซักผ้าจะช่วยลดปัญหานี้ได้

• ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า การล้างถังซักผ้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการอุดตันและการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่อง ทำให้เครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้นานขึ้น

• ป้องกันกลิ่นอับ การล้างเครื่องซักผ้าจะช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากสิ่งสกปรกและความชื้นที่สะสมอยู่ภายใน ทำให้เครื่องซักผ้ามีกลิ่นสะอาดอยู่เสมอ

   

   

   

แนะนำ 12 วิธีล้างเครื่องซักผ้าจากด้านในด้วยตัวเอง

การล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบน สามารถขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ภายในตัวเครื่องซักผ้าและสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ส่งผลต่อการซักผ้า ทำให้ผ้าไม่สะอาดแถมยังมีกลิ่นเหม็นอับชื้น ดังนั้น เราจะมาแนะนำ 12 วิธีล้างเครื่องซักผ้าด้านใน ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูถือเป็นสารทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน ซึ่งสามารถช่วยขจัดคราบตะกรันที่สะสมในเครื่องซักผ้าได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยลดกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานเครื่องซักผ้าเป็นประจำ เพียงแค่เทน้ำส้มสายชู 2 ถ้วยลงในช่องใส่ผงซักฟอก จากนั้นเลือกโปรแกรมซักที่ใช้น้ำร้อนและปล่อยให้เครื่องทำงานจนเสร็จ วิธีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ผ้าไม่สะอาดในครั้งต่อไป หากล้างถังเครื่องซักผ้าบ่อย ๆ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าและทำให้การซักผ้าดีขึ้น นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูยังเป็นวิธีที่ปลอดภัยและประหยัดในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

2. ใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาด

เบกกิ้งโซดาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถใช้ทำความสะอาดล้างเครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้า เพราะมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อนที่สามารถขจัดคราบฝังแน่น รวมถึงกลิ่นอับได้อย่างดี เพียงแค่เทเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยลงในถังซัก กดปุ่มเปิดน้ำและปล่อยให้เครื่องหมุนจนสารละลายทั่วถังซัก จากนั้นแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืน ก่อนปล่อยน้ำทิ้งและกดโปรแกรมซักอีกรอบโดยไม่ใส่ผ้า วิธีนี้จะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรกภายในเครื่อง ทำให้เครื่องซักผ้าของคุณสะอาดและปราศจากกลิ่นอับ หากคุณต้องการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าแบบง่าย ๆ และประหยัดเวลาแนะนำวิธีนี้

3. ใช้น้ำยาล้างเครื่องซักผ้าแบบสำเร็จรูป

การเลือกใช้น้ำยาหรือผงล้างถังเครื่องซักผ้าสำเร็จรูปเป็นวิธีง่าย ๆ ที่หลายคนเลือกใช้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือเครื่องซักผ้าฝาบน โดยขั้นตอนก็ง่ายมาก แค่เทน้ำยาลงในถังซัก แล้วเลือกโปรแกรมทำความสะอาดถังซัก หรือการซักเครื่องเปล่า เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนได้สะอาดหมดจด

4. ใช้ผงซักฟอกล้างเครื่องซักผ้าเปล่า

ถ้าหากคุณไม่อยากใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ผงซักฟอกธรรมดาที่ใช้ในการซักผ้าก็สามารถนำมาช่วยในการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้าได้อย่างดี โดยวิธีการคือเพียงเทผงซักฟอกประมาณ 2 ช้อนลงในถังซัก จากนั้นเลือกโปรแกรมซักที่ใช้น้ำเต็มถังโดยไม่ใส่เสื้อผ้าเข้ามา ก็จะสามารถกำจัดคราบต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ภายในเครื่องได้อย่างง่ายดาย

5. ผสมระหว่างน้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดา

สำหรับวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มีคราบหนักหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ การผสมน้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาก็เป็นอีกวิธีที่สามารถขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างสะอาดหมดจด โดยให้เอาน้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาผสมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน แล้วเทลงเครื่องซักผ้าพร้อมเลือกโปรแกรมซักผ้าปกติ หลังจากนั้นจะเห็นผลได้ชัดเจนว่าวิธีนี้สามารถขจัดคราบฝังลึก สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ภายในถังได้ ช่วยให้ถังเครื่องซักผ้าสะอาดมากยิ่งขึ้น

6. ใช้น้ำยาฟอกขาวและน้ำร้อนในการทำความสะอาดภายในถัง

น้ำยาฟอกขาวเป็นตัวช่วยในการขจัดคราบสกปรกที่ฝังลึกได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับน้ำร้อน การใช้วิธีนี้ในการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนจะช่วยให้คราบและสิ่งสกปรกหลุดออกไปอย่างง่ายดาย เพียงเทน้ำยาฟอกขาวลงในถังซัก เลือกโปรแกรมน้ำร้อนให้เครื่องทำงาน จากนั้นปล่อยให้ฟอกขาวทำหน้าที่ของมันและล้างเครื่องด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง

7. ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อล้างเครื่องซักผ้า

หากคุณต้องการให้เครื่องซักผ้าของคุณสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรค แนะนำวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนด้วยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนเลือกใช้กัน โดยเทน้ำยาฆ่าเชื้อในถังซัก แล้วเลือกโปรแกรมทำความสะอาดถังซัก จากนั้นให้เครื่องทำงานจนเสร็จและล้างเครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้าด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อกำจัดสิ่งตกค้างและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

8. ใช้แอมโมเนียช่วยกำจัดคราบและกลิ่น

แอมโมเนียเป็นสารที่สามารถช่วยในการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทแอมโมเนียลงในถังซักของเครื่องซักผ้า แล้วเลือกโปรแกรมทำความสะอาด หลังจากที่เครื่องซักผ้าทำงานครบเวลาแล้ว ให้ปล่อยน้ำทิ้งและล้างถังเครื่องซักผ้าด้วยน้ำสะอาด เพื่อไม่ให้มีสารตกค้าง วิธีจำเป็นจะต้องล้างถังเครื่องซักผ้าด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งก่อนที่จะซักผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้แอมโมเนียทำลายเนื้อเสื้อผ้าที่ซัก และไม่ทำให้สีเสื้อดูจางลง

9. ใช้กรดมะนาวในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

กรดมะนาวมีคุณสมบัติที่ดีในการขจัดหินปูนและสิ่งสกปรกที่สะสมจากน้ำประปา การใช้น้ำกรดมะนาวสามารถทำให้เครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้าของคุณสะอาดได้ง่ายๆ เพียงแค่ละลายกรดมะนาวในน้ำร้อน แล้วเทลงในถังซัก จากนั้นเลือกโปรแกรมซักน้ำร้อนให้เครื่องทำงานจนเสร็จ การล้างเครื่องซักผ้าด้วยกรดมะนาวจะช่วยขจัดคราบและหินปูนที่อาจสะสมภายในเครื่องได้อย่างดีเยี่ยม

10. ล้างเครื่องซักผ้าโดยใช้ผงวิตามินซีผสมกับกรดมะนาว

การใช้ผงวิตามินซีผสมกับกรดมะนาวช่วยขจัดคราบสกปรกและฆ่าเชื้อในเครื่องซักผ้าได้ดี โดยเริ่มจากต้มน้ำจนเดือด ใส่ผงวิตามินซี 200 กรัม และกรดมะนาว 100 กรัม คนให้ละลาย เทลงในถังซักและช่องใส่ผงซักฟอก เลือกโปรแกรมซักน้ำร้อน แช่ไว้ 30 นาที หลังจากนั้นเทน้ำทิ้งแล้วกดซักด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง เพื่อทำความสะอาดคราบสกปรกที่เหลือออกจากเครื่องซักผ้า เหมาะกับการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้า

11. วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าด้วยดีเกลือฝรั่ง

ดีเกลือฝรั่ง หรือเกลือ Epsom (Epsom Salt) เป็นสารธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าได้อย่างดีเยี่ยม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง เนื่องจากดีเกลือฝรั่งละลายน้ำได้ง่ายและไม่มีการทิ้งกลิ่นฉุน วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าด้วยดีเกลือฝรั่งเพียงแค่ใส่ดีเกลือฝรั่ง 1 ถ้วยและน้ำส้มสายชู 1 ลิตร ลงในถังซัก จากนั้นให้เลือกโปรแกรมซักปกติจนทุกอย่างละลายเข้ากัน หลังจากนั้นให้กดหยุดเครื่องและแช่ไว้ 1 ชั่วโมง แล้วให้เดินเครื่องต่อจนเสร็จสิ้น และล้างด้วยน้ำเปล่า

12. เลือกโปรแกรมเป็นล้างถังซัก

เครื่องซักผ้าส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับโปรแกรมซักที่หลากหลาย รวมถึงโปรแกรมล้างถังเครื่องซักผ้า ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดถังเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ วิธีการใช้โปรแกรมนี้ก็ง่ายมาก เพียงแค่เลือกโปรแกรมล้างถังซักในเครื่องซักผ้า แล้วเริ่มการทำงานตามปกติ โปรแกรมนี้จะช่วยขจัดคราบสกปรกและแบคทีเรียที่สะสมอยู่ภายในถังซัก โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ

วิธีล้างเครื่องซักผ้าจากด้านนอก ทำอย่างไร?

หลังจากที่ทราบวิธีล้างเครื่องซักผ้าด้านในไปแล้ว คราวนี้มาดูกันต่อว่าการล้างเครื่องซักผ้าฝาบนแล้วฝาหน้าด้านนอกมีวิธีอะไรบ้าง โดยเราได้ยกมาด้วยกันทั้งหมด 4 วิธี ในการล้างเครื่องซักผ้าด้านนอก ดังนี้

1. ทำความสะอาดซีลประตูและขอบยาง

ซีลประตูและขอบยางของเครื่องซักผ้าเป็นจุดที่มักมีคราบสกปรกสะสม เช่น คราบน้ำ คราบผงซักฟอก หรือแม้แต่เชื้อรา ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นอับและส่งผลต่อความสะอาดของเสื้อผ้า

วิธีทำความสะอาด

• ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ หรือน้ำส้มสายชูเจือจางเช็ดบริเวณซีลประตูและขอบยาง

• หากมีคราบฝังแน่น ให้ใช้แปรงขนนุ่มขัดเบา ๆ

• หลังจากทำความสะอาดเสร็จ ใช้ผ้าแห้งเช็ดให้สะอาดและเปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ให้แห้ง

2. ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและช่องน้ำยาปรับผ้านุ่ม

ช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นอีกจุดที่มักมีคราบสะสมจากผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม หากไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ อาจทำให้เกิดการอุดตันและส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์

วิธีทำความสะอาด

• ถอดช่องใส่ผงซักฟอกออกจากเครื่อง

• ใช้แปรงขนนุ่มขัดคราบสกปรกออกให้หมด

• ล้างด้วยน้ำสะอาดและปล่อยให้แห้งก่อนนำกลับไปติดตั้ง

3. ทำความสะอาดตัวกรองปั๊มหรือไส้กรอง

ตัวกรองปั๊มหรือไส้กรองเป็นส่วนที่ช่วยดักเศษสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น เส้นผม หรือเศษผ้า หากไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ อาจทำให้เครื่องซักผ้าทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพและเกิดการอุดตัน

วิธีทำความสะอาด

• เปิดฝาตัวกรองปั๊ม

• ถอดตัวกรองออกและใช้แปรงขัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่

• ล้างด้วยน้ำสะอาดและปล่อยให้แห้งก่อนนำกลับไปติดตั้ง

   

   

4. เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องและแผงควบคุม

ตัวเครื่องและแผงควบคุมเป็นส่วนที่สัมผัสบ่อยที่สุด จึงมักมีฝุ่นและคราบนิ้วมือสะสม การทำความสะอาดส่วนนี้จะช่วยให้เครื่องซักผ้าดูสะอาดเหมือนใหม่

วิธีทำความสะอาด

• ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดบริเวณตัวเครื่อง

• สำหรับแผงควบคุม ควรใช้ผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาด และเช็ดเบา ๆ เพื่อป้องกันความเสียหาย

• ห้ามใช้สารเคมี หรือน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน

วิธีล้างเครื่องซักผ้าแบบรวดเร็ว

สำหรับใครที่ไม่มีเวลาหาอุปกรณ์หรือหาเวลาในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเป็นล้างเครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้า ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วย 2 วิธีล้างเครื่องซักผ้า ที่ช่วยให้คุณประหยัดเวลา สะดวกสบายและเครื่องซักผ้าทำความสะอาดเหมือนใหม่

1. ใช้ฟังก์ชันล้างถังซักอัตโนมัติ

เครื่องซักผ้าส่วนใหญ่มีฟังก์ชันการล้างถังเครื่องซักผ้า ติดมาพร้อมกับตัวเครื่องอยู่แล้ว ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพียงกดเลือกโหมดทำความสะอาด ระบบจะทำการล้างถังซักโดยอัตโนมัติ ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและคราบสะสมได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องออกแรง

2. เลือกใช้บริการล้างเครื่องซักผ้าโดยช่างมืออาชีพ

หากต้องการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าแบบล้ำลึก และมั่นใจได้ว่าเครื่องซักผ้าจะได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง การเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพมาล้างทำความสะอาดถือเป็นตัวเลือกที่ดี นอกจากจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกอย่างหมดจดแล้ว ยังสามารถตรวจเช็กความสมบูรณ์ของเครื่องซักผ้าไปในตัวได้อีกด้วย

ขอแนะนำ LG Bright Care บริการล้างทำความสะอาดและดูแลรักษาผลิตภัณฑ์ มั่นใจทุกขั้นตอนโดยผู้ช่างผู้เชี่ยวชาญจาก LG สะดวก รวดเร็ว จัดการปัญหาได้ทันใจ ให้เครื่องซักผ้าของคุณสะอาดและกลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง

เราควรล้างเครื่องซักผ้าบ่อยแค่ไหน?

ความถี่ของการล้างเครื่องซักผ้าขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบ้าน หากซักผ้าเป็นประจำทุกวันหรือซักปริมาณมาก ควรล้างเครื่องซักผ้า อย่างน้อยเดือนละครั้ง แต่ถ้าใช้งานทั่วไป แนะนำให้ทำความสะอาดทุก 3 เดือน เพื่อป้องกันการสะสมของคราบสกปรก เชื้อรา และกลิ่นไม่พึงประสงค์

หากสังเกตว่าผ้าที่ซักออกมามีกลิ่นอับ ชื้น หรือยังรู้สึกไม่สะอาดแม้เพิ่งซักเสร็จ นั่นเป็นสัญญาณว่าควรล้างเครื่องซักผ้าทันที สามารถเลือกใช้วิธีล้างเครื่องซักผ้า ที่แนะนำไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้โปรแกรมล้างถังซัก การทำความสะอาดด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ เพื่อให้เครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน

วิธีล้างเครื่องซักผ้า หมดปัญหากลิ่นอับชื้น เพื่อการซักผ้าที่สะอาด หอมมากขึ้น

สาเหตุหลักที่ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับชื้นและความไม่สะอาดหลังซัก มักเกิดจากสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ภายในเครื่องซักผ้า ดังนั้น วิธีล้างเครื่องซักผ้าที่ถูกต้องและทำอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การล้างถังซักผ้าฝาบนและฝาหน้า ด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น กรดมะนาว ดีเกลือฝรั่ง หรือใช้ฟังก์ชันล้างถังอัตโนมัติ นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างน้อยทุก 1- 3 เดือน หรือบ่อยขึ้นหากใช้งานหนัก เพื่อช่วยให้ถังซักสะอาด ลดการสะสมของเชื้อโรค และทำให้เสื้อผ้าสะอาด ไร้กลิ่นอับ

หากคุณกำลังมองหาเครื่องซักผ้าที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง เครื่องซักผ้า LG คือทางเลือกที่ไม่ควรพลาด มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ทำจากวัสดุแข็งแรงทนทาน มีระบบซักถนอมผ้าอัจฉริยะที่ช่วยถนอมเนื้อผ้า และโปรแกรมซัก Allergy Care ที่สามารถขจัดคราบและแบคทีเรียด้วยไอน้ำ ทำงานเงียบไม่รบกวนการใช้งาน

สามารถดูรายละเอียดเครื่องซักผ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าครัวเรือนอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.LG.com และพิเศษสุด ๆ คุ้มยิ่งขึ้นกับสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก LG Member ที่มีสิทธิพิเศษทั้งส่วนลดและบริการมาให้คุณ เพียงแค่สมัครสมาชิก LG Member

• รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)

• Special Offer ผ่อน 0% สูงสุดถึง 18 เดือน *เฉพาะบัตรที่ร่วมรายการ

• แอลจีบริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ พร้อม Exclusive Care+ สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ

ติดต่อ LG
โทรศัพท์ 02 057 5757

ทุกวัน 8:00 - 18:00 น. 

อีเมล supportlgeth@lge.com

* ตรวจสอบเงื่อนไขส่วนลดและสิทธิพิเศษ LG Member ได้ที่ https://www.lg.com/th/membership/