We use cookies, including cookies from third parties, to enhance your user experience and the effectiveness of our marketing activities. These cookies are performance, analytics and advertising cookies, please see our Privacy and Cookie policy for further information. If you agree to all of our cookies select “Accept all” or select “Cookie Settings” to see which cookies we use and choose which ones you would like to accept.
เคยไหม? ซักผ้าเสร็จยังไงกลิ่นก็ไม่หอมเหมือนคิดที่ไว้ ซ้ำร้ายบางครั้งกลับได้กลิ่นอับติดมาแทนกลิ่นหอม ต้องบอกว่าการซักผ้าให้หอมไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกน้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับหลายขั้นตอน ตั้งแต่การแยกประเภทของผ้า การกะปริมาณผ้าที่ซักต่อครั้ง ไปจนรุ่นของเครื่องซักผ้าที่ใช้ก็มีผลต่อความหอมของผ้าที่ซักเช่นกัน
หากคุณกำลังมองหาเคล็ดลับซักผ้ายังไงให้หอมฟุ้งเหมือนเพิ่งออกจากร้านซักรีด บทความนี้มีเทคนิคดี ๆ มาแชร์กัน
ซักผ้าไม่หอม เกิดจากอะไร?
หลายคนอาจเคยประสบปัญหา “ซักผ้าไม่หอม” ทั้ง ๆ ที่ใช้ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือแม้แต่ซักผ้าตามขั้นตอนอย่างดีแล้วก็ตาม ผ้าที่ซักเสร็จกลับไม่มีกลิ่นหอม หรือบางครั้งถึงขั้นมีกลิ่นอับ ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ซักผ้าไม่หอม ดังนี้
เครื่องซักผ้าสกปรก หรือมีคราบสะสม
ภายในถังซักอาจมีคราบผงซักฟอก เชื้อรา หรือแบคทีเรียสะสมอยู่ โดยเฉพาะหากไม่ได้ล้างเครื่องซักผ้าเป็นประจำ กลิ่นอับเหล่านี้จะติดเสื้อผ้าโดยไม่รู้ตัว
ใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไป
ใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มเยอะไม่ได้หมายความว่าจะสะอาดหรือหอมเสมอไป สารเคมีที่ตกค้างอาจทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังอุดตันเนื้อผ้าอีกด้วย
ตากผ้าในที่อับชื้น ไม่มีแสงแดด
แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจเป็นต้นตอของกลิ่น หากตากผ้าในห้อง หรือในที่อากาศไม่ถ่ายเท อาจทำให้ผ้าอับ แม้จะซักสะอาดแค่ไหนก็ตาม
ผ้าแห้งไม่สนิทก่อนเก็บ
การเก็บผ้าที่ไม่แห้งดีอาจทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับตามมา ถึงแม้ตอนแรกจะหอมก็จริง แต่พอเก็บไว้ในตู้ กลิ่นก็จะเปลี่ยน กลายเป็นกลิ่นอับติดเสื้อผ้า
10 วิธี ซักผ้ายังไงให้หอม
1. ไม่ควรซักผ้าในปริมาณที่มากเกินไป
การยัดผ้าแน่นเกินไปในเครื่องซักผ้า จะทำให้น้ำและผงซักฟอกซึมเข้าไปไม่ทั่วถึง ส่งผลให้ผ้าซักไม่สะอาด กลิ่นไม่หอมสดชื่น ควรแบ่งซักให้พอดีกับความจุของเครื่อง เพื่อให้ผ้าสะอาดและหอมมากขึ้น
2. เลือกน้ำยาซักผ้าที่มีกลิ่นหอม
น้ำยาซักผ้าที่มีกลิ่นหอมช่วยเพิ่มความสดชื่นให้เสื้อผ้า ควรเลือกสูตรที่กลิ่นติดทนนานและเหมาะกับผิว หากแพ้ง่ายควรเลือกแบบอ่อนโยน แต่ยังคงกลิ่นหอมสะอาด
3. ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอม
น้ำยาปรับผ้านุ่มไม่เพียงแค่ทำให้ผ้านุ่มลื่น แต่ยังช่วยให้กลิ่นหอมติดทนนานขึ้น ควรเติมในช่องเฉพาะของเครื่องซักผ้า และใช้ในปริมาณที่เหมาะสมกับปริมาณผ้ากลิ่นจะติดทนนานมากที่สุด ใครที่ไม่ชอบใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพราะมองว่ามากขั้นตอน แต่อยากให้ผ้าหอมต้องลอง เพราะจะช่วยให้ผ้าหอมขึ้นแน่นอน
4. แยกชนิดของผ้าก่อนซัก
การแยกผ้าสี ผ้าขาว และผ้าหนา/บางก่อนซักช่วยให้ซักได้สะอาดตรงจุด และยังลดโอกาสกลิ่นอับ โดยเฉพาะผ้าที่เปียกเหงื่อมาก ควรแยกซักต่างหาก เพื่อไม่ให้กลิ่นอับทำให้ผ้าที่ซักพร้อมกันเหม็นอับไปด้วย
5. ตากผ้าทันทีหลังซักเสร็จ
สูตรซักผ้าหอมที่ลองทำแล้วเห็นผลจริงอีกหนึ่งวิธี คือไม่ทิ้งผ้าไว้นานจนเกินไปหลังซัก เพราะหากทิ้งผ้าไว้ในเครื่องหลังซักเสร็จนานเกินไป อาจทำให้เกิดกลิ่นอับชื้น ควรรีบตากทันทีหลังซักเสร็จ และเลือกตากในที่อากาศถ่ายเทดี หรือมีแดดอ่อน ๆ จะช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
6. เลือกน้ำยาซักผ้าให้เหมาะกับรูปแบบการซัก
การเลือกน้ำยาซักผ้าให้เหมาะกับรูปแบบการซัก ไม่ว่าจะเป็นซักมือหรือซักเครื่อง มีผลต่อกลิ่นหอมของผ้าหลังซักอย่างมาก เพราะน้ำยาที่ออกแบบมาเฉพาะจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยขจัดคราบและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังช่วยให้กลิ่นหอมติดผ้าได้นานยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไปอีกด้วย
7. เครื่องอบผ้าร้อนเกินไป
การตั้งค่าเครื่องอบผ้าให้มีความร้อนที่สูงเกินไปอาจทำให้กลิ่นหอมระเหยไปก่อนที่ผ้าจะแห้งสนิท ควรตั้งอุณหภูมิอบผ้าให้พอดี โดยเฉพาะใครที่ใช้น้ำยาปรับนุ่ม ควรรู้วิธีใช้เครื่องอบผ้าและตั้งค่าความร้อนที่เหมาะสม เพื่อให้กลิ่นติดผ้านานยิ่งขึ้น
8. แช่ผ้าด้วยน้ำร้อนก่อนซัก
สำหรับผ้าที่มีกลิ่นแรง เช่น ผ้าขนหนู หรือผ้ากีฬา การแช่น้ำร้อนก่อนซักช่วยขจัดแบคทีเรียและกลิ่นอับได้ดี ควรผสมน้ำยาซักผ้าลงไปเล็กน้อยเพื่อทำให้กลิ่นอับในผ้าหายไปได้มากยิ่งขึ้น
9. ใช้เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ สภาพดี
ถังซักของเครื่องซักผ้าที่มีคราบหรือเชื้อราเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นอับในผ้า ควรทำความสะอาดถังซักเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาด เบกกิ้งโซดา หรือน้ำส้มสายชู รวมไปถึงควรตรวจสภาพเครื่องที่ใช้ว่าเป็นรุ่นเก่าเกินไปหรือไม่ เพราะหากเป็นรุ่นเก่ามาก ๆ แรงหมุนอาจจะน้อย หรือมีการชำรุดภายในที่อาจทำให้ประสิทธิภาพการปั่นผ้าน้อยลงกว่าปกติ
10. ตากผ้าให้แห้งสนิทเสมอ
อีกเรื่องที่เจอบ่อยเมื่อซักผ้าแล้วไม่หอม คือการตากผ้าไม่แห้งสนิท ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผ้ามีกลิ่นอับ แม้จะซักด้วยผงซักฟอกหอม หรือใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นดีแค่ไหนก็ตาม เพราะถ้าผ้ายังมีความชื้นหลงเหลืออยู่ เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมชื้นจะเริ่มทำงานทันที ทำให้กลิ่นหอมสะอาดหายไป กลายเป็นกลิ่นเหม็นอับแทน
ซักผ้ายังไงให้หอม
วิธีซักผ้าให้หอมติดทนนาน ไม่ใช่แค่การเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นโปรดเท่านั้น แต่คือการใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นการแยกผ้าก่อนซัก การเลือกน้ำยาที่เหมาะสม การใช้น้ำยาในปริมาณที่พอดี ไปจนถึงการตากผ้าให้แห้งในที่อากาศถ่ายเทและรีดผ้าให้เรียบร้อย ทุกขั้นตอนล้วนมีผลต่อความหอมสะอาดของผ้า หากคุณเคยมีปัญหาผ้าเหม็นอับหรือกลิ่นไม่ติดผ้า ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ดู รับรองว่าเสื้อผ้าของคุณจะหอมสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และกลายเป็นกลิ่นประจำตัวที่ใคร ๆ ก็ต้องทักแน่นอน
สนใจเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lg.com พิเศษสุด ๆ สมัคร LG Member รับส่วนลดเเละบริการพิเศษสุดคุ้มอีกหลายต่อ
● รับส่วนลด 10% ทุกการสั่งซื้อ (ยกเว้นการสั่งซื้อผ่านบริการ LG Subscribe)
● ผ่อน 0% นานสูงสุด 18 เดือน (เฉพาะบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ)
● แอลจีบริการจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ พร้อม Exclusive Care+ สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ
ติดต่อ LG
โทรศัพท์ : 02 057 5757
ทุกวัน 8:00 - 18:00 น.
Line : @lgthailand
อีเมล : supportlgeth@lge.com










